ด่วน !! เขื่อนอุบลรัตน์ น้ำเต็มอ่างแล้ว เร่งระบายน้ำออกวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ มวลน้ำจากน้ำชีระลอกใหม่ 1,200 ล้าน ลบ.ม.กำลังจะเข้าเขตขอนแก่น

ด่วน !! เขื่อนอุบลรัตน์ น้ำเต็มอ่างแล้ว เร่งระบายน้ำออกวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ มวลน้ำจากน้ำชีระลอกใหม่ 1,200 ล้าน ลบ.ม.กำลังจะเข้าเขตขอนแก่น ผู้ว่าฯ สั่งเริ่มเสริมแนวคันดินพนังกั้นน้ำชี-พอง ทุกจุด พร้อมสั่งอพยพประชาชนมาไว้ในเขตปลอดภัย และขนของขึ้นที่สูง หลังพบว่าประชาชนบางส่วนกลับเข้าบ้านแล้ว

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 ต.ค.2564 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ อยู่ในระดับกักเก็บเต็ม 100 % แล้ว หรือที่ 2,419 ล้าน ลบ.ม. ทำให้จังหวัดต้องมีการปรับการะบายน้ำออกจากเขื่อนอุบลรัตน์เป็นวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. โดยมีผลทันที เพื่อให้ระดับน้ำไหลเข้าและไหลออกนั้นสัมพันธ์กันในภาพรวม เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน ตั้งแต่เตี๋ยนหมู่,ไลอ้อนร็อค และมาจนถึงคมปาซุ มีระดับน้ำไหลลงสู่ความจุอ่างของเขื่อนอุบลรัตน์สูงสุดวันละกว่า 100 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ปริมาณน้ำเก็บกักของเขื่อนอุบลรัตน์ มีจำนวนที่เต็มความจุอ่าง รวมไปถึงพื้นที่เก็บกักน้ำและแม่น้ำสายต่างๆตามเขตลุ่มน้ำนั้นมีปริมาณที่สูงขึ้น ดังนั้นการระบายน้ำออกที่ปรับจากเดิม 10 ล้าน ลบ.ม. มาเป็น 20 ล้าน ลบ.ม. จะทำให้ระดับในแม่น้ำพองสูงขึ้นในระยะนี้ และหัวน้ำก้อนแรกของแม่น้ำพองจากการปรับการระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นจะมาบรรจบกับน้ำในแม่น้ำชี ที่เขต ต.พระลับ และ ต.บึงเนียม ในอีก 3 วันต่อจากนี้ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนนั้นเฝ้าระวังภาวะน้ำล้นตลิ่งและการอพยพมาในพื้นที่ที่ปลอดภัยและรีบเก็บสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงอย่างเร่งด่วน เนื่องจากการตรวจบางจุดระดับน้ำลด ประชาชนเริ่มกลับเข้าบ้านเพื่อจัดเก็บสิ่งของ แต่สถานการณ์ขณะนี้จากมวลน้ำหลากจากพายุที่ติดต่อกันหลายลูกจึงยังคงทำให้การปรับการระบายน้ำในระยะนี้จะต้องเพิ่มการระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีกด้วย

“นอกจากการจัดเวรยามของผู้นำชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำพอง ในระยะนี้ที่ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างรัดกุมแล้ว ยังคงกำชับให้ชลประทาน และโยธาธิการจังหวัด รวมไปถึง กรมเจ้าท่าและ อปท.ในทุกพื้นที่ตรวจสอบแนวคันดินที่เป็นพนังกนั้นน้ำ และ ตลิ่งริมสองฝั่งแม่น้ำ ทั้งแม่น้ำพองและแม่น้ำชี เนื่องจากจะต้องรับแรงกระแทกจากมลน้ำหนุนอีกระลอก โดยเฉพาะเขตบรรจบน้ำของแม้น้ำพองและแม่น้ำชี ที่อาจจะมีการทรุดตัวลงดังนั้นทุกหน่วยงานต้องรับมือกับภาวะเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น และแม้ว่ามวลน้ำก้อนแรกจากแม่น้ำชี 1,500 ล้าน ลบ.ม. ที่ท่วมพื้นที่ขอนแก่นจะไหลผ่านไปแล้ว แต่มวลน้ำก้อนใหญ่ลูกที่ 2 ประมาณ 1,200 ล้าน ลบ.ม.ได้ถูกส่งมาจาก จ.ชัยภูมิแล้วเช่นกัน”

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า มวลน้ำก้อนที่ 2 ทีถูกปล่อยมาจาก จ.ชัยภูมิ ตามแผนบริหารจัดการน้ำ ประมาณ 1,200 ล้าน ลบ.ม. ตามแม่น้ำชี นั้นคาดว่าอีก 7 วันจะเข้าเขตตัวเมืองขอนแก่น ดังนั้นการเร่งระบายน้ำในแม่น้ำชี ให้ไหลลงตามเส้นทางน้ำ ให้ได้มากที่สุดในระยะนี้จึงต้องจำเป็นอย่างยิ่งและให้ได้มากที่สุด เพื่อรองรับมวลน้ำก้อนที่ 2 และน้ำจากการระบายมาตามแม่น้ำพอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมนั้นจะยังคงท่วมขังต่อไปอย่างต่อเนื่องตามการระบายน้ำและภาวะน้ำหลากจากพายุฝนที่ตกลงมา ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ระดับน้ำทุกชั่วโมง เพื่อรับมือกับภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งจากพายุฝนและการปรับการระบายน้ำตามเส้นทางน้ำที่กำหนด ขณะที่พนังกั้นน้ำ ที่ บ.ดอนบม ต.เมืองเก่า ซึ่งเป็นจุดสำคัญของจังหวัด ควบคู่กับเขต ต.พระลับ อ.เมือง คณะทำงานร่วมทุกฝ่ายได้ตรวจสอบความแข็งแรงและดันน้ำหนุนที่ประตูระบายน้ำD8-D9 ที่ ต.พระลับ ไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับหรือไหลทะลักเข้าเขตตัวเมืองชั้นในอ่างเข้มงวดตลอดทั้ง 24 ชม.