พ่อเมืองร้อยเอ็ดเชิญชวนผู้ปกครองอนุญาตให้ลูกหลานฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เตรียมพร้อมเปิดเรียนในภาคเรียนที่จะถึงนี้

วันที่ 11 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เดินทางตรวจเยี่ยมการจัดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของโรงพยาบาลร้อยเอ็ด สำหรับเด็กนักเรียน อายุ 12 ปี ถึง 17 ปี 11 เดือน ในเขตอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ณ สถานที่บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของอำเภอเมืองร้อยเอ็ด อาคารศูนย์ประชุมใหญ่และนิทรรศการ โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายแพทย์ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด และคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับ

จังหวัดร้อยเอ็ด ได้กำหนดจัดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักเรียนฯ ตามนโยบายคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมให้บริการวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) สำหรับนักเรียน/นักศึกษา อายุ 12 ปี ถึง 17 ปี 11 เดือน ที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ซึ่งทางจังหวัดร้อยเอ็ดได้จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) สำหรับนักเรียน และได้จัดสรรให้โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดร้อยเอ็ด (โรงพยาบาลของแต่ละพื้นที่จะประสานกับสถานศึกษาและนัดหมายกำหนดวันในการฉีดวัคซีน) และจะเริ่มดำเนินการให้บริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) สำหรับกลุ่มเป้าหมายนักเรียน/นักศึกษา ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไป

ทางด้าน นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า สำหรับเรื่องการฉีดวัคซีนทุกๆกลุ่มถือเป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล ในการที่จะรับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน การต้านทานโรคโควิด-19 ซึ่งการฉีดวัคซีนจะเป็นวิธีหนึ่ง ที่จะทำให้สภาพแวดล้อมของเรากลับไปสู่สภาพเดิมได้ เป็นทางหนึ่งที่จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความสับสนว่าวัคซีนจะไม่ปลอดภัยหรือมีผลข้างเคียงในด้านต่างๆ แต่ก็เชื่อมั่นว่าการฉีดวัคซีนได้ผ่านทางคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนที่มีความรู้มากกว่าผู้ที่โพสต์ลงในกลุ่มหรือโซเชียลต่างๆ เพราะฉะนั้นจึงอยากให้พ่อแม่พี่น้องชาวร้อยเอ็ดเชื่อมั่นในเรื่องของการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับลูกหลาน ขอให้อนุญาตและสนับสนุนให้ลูกหลานมารับวัคซีน เพื่อให้โรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนอย่างมั่นใจ ปลอดภัยไร้จากโควิด-19 ในสถานศึกษา และมุ่งหวังให้เด็กนักเรียน ไปเรียนได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข และเชื่อว่าถ้ากลุ่มเป้าหมายของเราได้รับวัคซีนไปแล้ว จะทำให้จังหวัดร้อยเอ็ดของเราเปิดพื้นที่กลับไปคืนสู่สภาพเดิมที่เราเคยมีชีวิตที่มีความสุข