วันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2025
ข่าววาไรตี้ทั่วไป

ประธานสภาทนายความศาล จ.พล เดินหน้าเอาผิดตำรวจทางหลวงให้ถึงที่สุด หลังบุกจับผิดหมายพร้อมระบุ เรื่องการยอมความนั้นมีโอกาสน้อย

แชร์ข่าวนี้

ประธานสภาทนายความศาล จ.พล เดินหน้าเอาผิดตำรวจทางหลวงให้ถึงที่สุด หลังบุกจับผิดหมายพร้อมระบุ เรื่องการยอมความนั้นมีโอกาสน้อย เพราะเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีองค์กรทนายความ ขณะที่ ผกก.4 บก.ทล. ยืนยันตำรวจไม่มีเจตนากระทำรุนแรง

จากกรณีที่นายปกาญจน์ นพศรี อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.7 บ้านหัวหนองแวง ต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ประธานสภาทนายความศาลจังหวัดพล เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองสองห้อง หลัง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 2 นาย ขับรถตรวจการณ์ตำรวจทางหลวงหมายเลขทะเบียน 1กญ- 9004 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดตรงข้ามที่ทำการ อบต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่นพร้อมแสดงหมายจับ และจะจับกุม ทั้งที่ชื่อ นามสกุลในหมายจับไม่ใช่ตนเอง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 25 ก.ย. 2564 ที่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 7 บ้านหัวหนองแวง ต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นายปกาญจน์ นพศรี อายุ 57 ปี กล่าวว่า การกระทำของตำรวจทางหลวงทั้ง 2นายนั้น โดยส่วนตัวมองว่ามีลับลมคมใน เพราะตอนที่จะพบได้บอกกับชาวบ้านว่าต้องการพบทนายความ เพื่อปรึกษาคดีมรดก เมื่อชาวบ้านมาเรียกให้ไปพบกลับถูกกระทำในเรื่องของการมีหมายจับ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งผู้ต้องหารายดังกล่าวตามหมายจับที่ตนเองตรวจดูชื่อนายวรชัย เสือแก้ว ซึ่งเมื่อตำรวจถามว่า รู้จักกันหรือไม่ ตนยอมรับว่ารู้จักกัน เพราะนายวรชัยมาจากภาคใต้มาเป็นนายประกันที่ศาลต่อมานายวรชัย มีอาการป่วย จึงย้ายนายวรชัยมาเข้าในทะเบียนบ้าน เพื่อใช้สิทธิ์ 30 บาททำการรักษาอาการป่วย ต่อมา มีหนังสือแจ้งจากหน่วยงานราชการแจ้งว่า นายวรชัยมีความประพฤติไม่ชอบ จึงย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง ซึ่งเวลาล่วงเลยมากว่า 2 ปีแล้ว และปัจจุบันก็ไม่มาที่บ้านแล้ว หากจะจับก็ต้องไปสืบสวนจับกุมที่อื่น แต่ตำรวจทางหลวงทั้ง2 นายก็ยังไม่ยอมลดละ

“อธิบายทุกอย่างให้ตำรวจทางหลวงทั้ง 2นายได้ทราบทั้งหมดแต่ไม่ฟัง ยังคงยืนยันจะจับกุม โดยอ้างว่าภาพถ่ายตามหมายจับกับตน มีหน้าตรงกัน จึงได้พากันฉุดกระชากและล็อคมือไขว้หลัง เพื่อจะอุ้มขึ้นรถ พอดี ส.อบต.ดอนดู่ ทราบเหตุ และชาวบ้านเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก มาช่วยเหลือ และตำรวจทางหลวงทั้ง 2 นายก็ขับรถออกไป ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจทางหลวงทำเกินกว่าเหตุ เพราะมีเจตนาที่ไม่ดี และถ้าตำรวลทางหลวง 2 นาย ถือหมายจับมาแสดงแล้วถามหานายวรชัย แต่ไม่ใช้พฤติกรรมเช่นนี้ ก็น่าจะดีกว่านี้ แต่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใช้การหลอกล่อ เพราะให้ชาวบ้านมาเรียกว่าจะปรึกษาเรื่องคดีมรดก จึงขอยืนยันว่า จะไม่มีการยอมความ เพราะตนก็เป็นคนมีองค์กรมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ขอเอาเรื่องและดำเนินคดีตามกฎหมาย”

ประธานสภาทนายความศาล จ.พล กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังจากเรื่องเกิดขึ้น มีข้าราชการตำรวจประจำ สภ.แห่งหนึ่งในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น โทรมาหา เพื่อขอเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นและห้ามให้ข่าวกับสื่อมวลชนแล้วจะพาตำรวจทางหลวงทั้ง 2 นายมาขอโทษที่บ้าน ตนเองจึงขอยืนยันว่า ตนเองเป็นคนมีองค์กร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม องค์กรตำรวจโดยเฉพาะตำรวจทางหลวงควรได้รับการแก้ไข หากจะขอโทษต้องขอโทษต่อหน้าผู้นำองค์กรระดับสูงของตน รวมถึงจะนำเรื่องที่เกิดขึ้น รายงานต่อสภาทนายความให้ทราบเรื่อง และขอยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีคนหน้าเหมือน ไม่มีการทำคลิปกลั่นแกล้งใคร และตำรวจทางหลวงในคลิปก็เป็นตำรวจจริงๆ คนรูปร่างท้วม ชื่อ ด.ต.สุริยา วงษ์เบาะ คนรูปร่างผอม ชื่อ ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ มาเพชร เป็นตำรวจทางหลวงประจำตู้ยามทางหลวงอ.พล จ.ขอนแก่น ส่วนรถก็เป็นรถตำรวจทางหลวงจริงๆ

ด้าน พ.ต.อ.อนุรัตน์ ฉิมทิม ผกก.4 บก.ทล.( ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจทางหลวง) กล่าวว่า ทราบรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว และได้สั่งการให้รายงานข้อเท็จจริงให้ทราบ ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่า ตำรวจทางหลวงทั้ง 2 นาย มีหมายจับ จะไปจับผู้ต้องหา แต่มีการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ และฝ่ายทนายก็ไม่ให้ความร่วมมือ ส่วนการจะอุ้มทนายขึ้นรถนั้น ทราบว่า ตำรวจทั้งสองนายไม่มีพฤติกรรมที่จะทำเช่นนั้น ไม่มีเจตนาจะทำการรุนแรง แต่เพราะไม่ได้รับความร่วมมือจึงเกิดเรื่องดังกล่าว และหากมีรายงานสรุปจากผู้ใต้บังคับบัญชามาแล้ว จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่อไป

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ประธานสภาทนายความศาล จ.พล เดินหน้าเอาผิดตำรวจทางหลวงให้ถึงที่สุด หลังบุกจับผิดหมายพร้อมระบุ เรื่องการยอมความนั้นมีโอกาสน้อย "

ข่าววาไรตี้ทั่วไป ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด