ขอนแก่นผนึกพลังร่วมหอการค้าต่างประเทศ จัดประชุมร่วมนักธุรกิจไทย-เทศแบบนิวนอมอล ชูจุดเด่นของเมืองเชื่อมโยงธุรกิจต่างชาติ

ขอนแก่นผนึกพลังร่วมหอการค้าต่างประเทศ จัดประชุมร่วมนักธุรกิจไทย-เทศแบบนิวนอมอล ชูจุดเด่นของเมืองเชื่อมโยงธุรกิจต่างชาติ เปิดช่องทางการลงทุนหลังโควิดคลี่คลาย เน้นหนักด้านการแพทย์ การคมนาคมขนส่งและอาหาร
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 16 ก.ย.2564 ที่โรงแรมอวานี ขอนแก่น แอนด์ คอนเวนชั่น เว็นเตอร์ นายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น ,นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย และ น.ส.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ร่วมกันแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ และ ออนไซค์ การจัดงานฟอรัมธุรกิจผ่าระบบออนไลน์ Khon Kaen Business Forum-The Virtual Event ซึ่ง หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย,หอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย,หอการค้าเบลเยี่ยม-ลักเซมเบิร์ก-ไทย,หอการค้า จ.ขอนแก่น,สสปน. รวมทั้ง จ.ขอนแก่น หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น ระหว่างวันที่ 23-24 ก.ย.ในรูปแบบการจัดงานแบบวิถีใหม่นิวนอมอล ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด

นายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขอนแก่นเป็นเมืองยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญของภาคตะวันเฉียงเหนือของประเทศไทย ที่จัดเป็นประตูสู่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่มีจุดเด่นที่หลากหลายครบถ้วนรอบด้าน ทั้งในเรื่องของการเป็นศูนย์กลาการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ การเป็นเมืองแห่งการประชุมสัมมนาหรือไมซ์ การเป็นเมืองศูนย์กลางทางการแพทย์ ที่มีโรงพยาบาล สถาบันการศึกษาที่ผลิตบุคลากรทางการแพทย์ และมีการจัดตั้งศูนย์บริการทางการแพทย์ในระดับภูมิภาคที่รองรับผู้ป่วยได้กว่า 5,000 เตียง การเป็นเมืองแห่งการเกษตรที่มีการนำวัตถุดิบไปแปรรูป สกัด และต่อยอดมูลค่าเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมไปถึงการเป็นเมืองแห่งอาหารและอุตสาหกรรมอาหารที่ได้มาตรฐานชั้นนำระดับนานาชาติจนเป็นที่ยอมรับกันย่างแพร่หลาย ดังนั้นวันนี้การพร้อมใจที่จะเชิญชวนนักลงทุนในระดับนานาชาติ ผ่านหอการค้าและหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมผ่านระบบออนไลน์รวมกว่า 100 คน ทุกคนจะได้รับทราบถึงเสน่ห์ของเมือง ความตั้งใจและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะทำให้ขอนแก่นเป็นที่รู้จักและเป็นที่หมายลำดับต้นๆของประเทศในการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นต่อจากนี้ไป

ขณะที่ นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นทำให้การจัดการประชุมและพบปะร่วมระหว่างนักธุรกิจในระดับพื้นที่จึงเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นแบบออนไลน์ ทั้งการจัดเสวนาทางธุรกิจ การนำเสนอผลงานของผลิตภัณฑ์สตาร์ทอัพ การพบปะเจรจาร่วมระหว่างนักธุรกิจขอนแก่นกับนักธุรกิจจากนานาประเทศ เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในขอนแก่น ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นแม้การพบปะจะทำได้น้อยลงแต่ธุรกิจจะต้องดำเนินการต่อไปด้วยการนำจุดเด่นในพื้นที่ทั้งในด้านของการคมนาคมขนส่ง การเป็นเมืองอัจฉริยะ ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีและหลักวิชาการมาใช้ในการดำเนินธุรกิจที่ครอบคลุมรอบด้าน รวมไปถึงด้านการบริการทางการแพทย์ และธุรกิจอาหาร มาเป็นจุดขายให้กับนักลงทุนได้ร่วมเจรจาจนกลายเป็นคู่ค้าทางธุรกิจร่วมกันต่อไปในอนาคต